ชีวิตนี้เป็นของน้อยนัก หากแต่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของเรา ดังนั้นเราจงเร่งทำชีวิตนี้ให้มีคุณค่ามากที่สุดเท่าที่จะมากได้ก่อนที่เราจะหมดโอกาส
วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557
วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557
วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557
วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557
Make me a German อุปนิสัยขั้นพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่ในเยอรมนี
อุปนิสัยขั้นพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่ในเยอรมนี
ระดับหนี้สินต่อครัวเรือนของคนเยอรมันอยู่ในระดับต่ำมากที่สุดในยุโรป ชาวบ้านทั่วไปนิยมใช้จ่ายด้วยเงินสดมากกว่าบัตรเครดิต
ธนาคารไม่อนุมัติบัตรเครดิตให้กันง่าย ๆ ในขณะที่ชาวเยอรมันก็ไม่ต้องการได้บัตรเครดิตง่าย ๆ เช่นกัน
ทั้งยังสามารถออมเงินได้ 10% ของเงินเดือนแทบทุกคน
ผู้คนส่วนใหญ่มีเงินฝากในธนาคารเป็นกอบเป็นกำทำให้ระบบการหมุนเวียนของเงินกู้กับเงินฝากสมดุลกันได้ดี
คนเยอรมันไม่นิยมเอาบ้านหรือรถยนต์ไปจำนองเพื่อนำเงินมาทำธุรกิจ เพราะถือว่าเป็นความเสี่ยงที่อาจจะสูญเสียทรัพย์สินที่มีอยู่
คนเยอรมันใช้เวลาทำงานต่อสัปดาห์น้อยกว่าคนในชาติอื่น ๆ ทั่วโลก แต่ได้ประสิทธิภาพมากกว่า การทำงานล่วงเวลาถูกมองว่าเป็นสิ่งไม่เหมาะสม เนื่องจากการให้เวลากับครอบครัวหลังเลิกงานถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก
เวลาแปดชั่วโมงต่อวัน คนเยอรมันทำงานอย่างจริงจังในเวลางาน ไม่เสียเวลาไปกับการพูดคุยเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับงาน อีเมลล์ส่วนตัว Facebook และโทรศัพท์มือถือ ...เป็นที่รู้กันว่าไม่ควรใช้ในชั่วโมงทำงาน
ชีวิตในที่ทำงานที่นี่เขาจริงจังกันมาก ไม่มีการพูดคุย นินทา ไม่อยากรู้อยากเห็นว่าใครเป็นแฟนใคร ใครเลิกกับใคร ใครจะไปออกเดทกับใคร ไม่แม้แต่จะเล่าเรื่องละครทีวีที่ดูเมื่อคืน เลิกงานแล้วจะไปไหน จะไปทานดินเนอร์กับใคร ก็ไม่มีการพูดคุยกัน
การมาทำงานสายจะถูกมองว่าเป็นคนไม่รักษาสัญญา จะมาสายสามนาทีหรือสามสิบนาที ก็ถือว่าเป็นคนไม่มีคุณภาพเพราะขาดความเคารพต่อตัวเองและองค์กร
สองในสามของคุณแม่มือใหม่จะไม่ทำงาน นอกบ้าน การบอกว่าเป็น Housewife ในประเทศอื่น ๆ อาจจะรู้สึกเขินอายเหมือนว่าตนเองไม่มีงานทำ แต่ที่นี่มีแต่ความภาคภูมิใจหากจะได้เป็น Housewife
รัฐบาลให้สวัสดิการดีกับคุณแม่ที่ต้องออกจากงาน ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้แม่ได้เลี้ยงดูลูกด้วยตนเอง การให้เวลากับลูกถือเป็นสิ่งสำคัญ
ในวันอาทิตย์ ร้านรวงทั่วไปตามแหล่ง Shopping จะปิดเงียบ เพื่อให้ผู้คนส่วนใหญ่มีเวลาอยู่กับครอบครัว เมื่อสถาบันครอบครัวแข็งแรงประเทศชาติก็จะแข็งแรง
ระดับองค์กร
ในยามยากของเศรษฐกิจ
บริษัทส่วนใหญ่ไม่ใช้วิธีการ Lay off พนักงาน
ไม่นิยมการปลดคนงานออกแบบกระทันหัน เพื่อความอยู่รอดของบริษัท อาจจะเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมองค์กรไปเสียแล้วที่บริษัทจะเป็นห่วงความอยู่รอด ของพนักงานก่อน เพื่อที่จะได้ช่วยกันประคองให้บริษัทอยู่รอด
พนักงานยินดีที่จะถูกลดรายได้อย่างพร้อมเพียงกันเพื่อให้ทุกคนอยู่ได้และบริษัทอยู่รอด
สิ่งนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงการรักพวกพ้อง รักองค์กร และรักชาติในที่สุด
ใช่เลยครับ การใช้ชีวิตแบบพอเพียง ประหยัด จริงจังในหน้าที่ มีระเบียบวินัย ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบสูง รักครอบครัว รักพวกพ้อง รักชาติ
เหล่านี้ล้วนเป็นอุปนิสัยขั้นพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่ในเยอรมนีได้ปฏิบัติสืบ ต่อกันมา โดยไม่จำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ใหม่ ๆ อะไรที่แปลกแหวกแนวมากระตุ้นเศรษฐกิจให้เฟื่องฟูอย่างที่ประเทศอื่น ๆ ชอบทำกัน
Credit : บุญชัย ปัณฑุรอัมพร - CEO Blogs กรุงเทพธุรกิจ
วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557
สังคมรากเน่า
http://www.thaipost.net/news/210814/95011
อืมมมม....ผมก็นึกว่า "โรคอีโบลา" จากแอฟริกาจะ
ระบาด แต่ที่ไหนได้ โรค "ไอ้อีบ้า" จากสหรัฐอเมริกากลับระบาดเข้ามาในเมืองไทย รุนแรง-รวดเร็วกว่า ชนิดที่ต้องพูดว่า.....
"ไม่ทันข้ามคืน" พวกอีลิตและดัดจริตไร้รากทั้งหลาย ถูกโรคไอ้อีบ้าระบาดใส่จน "กล้ามเนื้อสมองอ่อน" บ้าใบ้ไร้สติพินิจไปตามๆ กัน ถึงขั้นถ่ายคลิปโชว์ ใช้น้ำแข็งราดหัว
เพื่อ "ช็อกระบบประสาท" ตัวเอง!
ก็หวังว่า "กระทรวงสาธารณสุข" ของคุณหมอณรงค์ สหเมธาพัฒน์ จะสกัดอยู่ ก่อนที่จะระบาดลุกลามสู่สังคมไร้รากทั่วประเทศ เพราะอะไรที่ไร้สาระ คนไทยถนัดเลียนแบบโดยไม่รีรออยู่แล้ว อยากทำบุญ อยากสงเคราะห์สังคม มีเงิน-มีทองพอเจียดเจือจานกันได้ ก็ทำไป ไม่เห็นจำเป็นต้องมาสร้างรูปแบบเลอะๆ เทอะๆ
ฝรั่งเขาทำ นั่นก็เรื่องของพวกเขา-สังคมเขา....! พวกเรา-สังคมเรา ก็หัดคิด-หัดสร้างเป็นต้นแบบที่ดีงาม ให้คนอื่นหรือไทยเราเองได้เลียนแบบ-ทำตามกันบ้าง จะไม่ดีกว่าหรือ?
แค่การเอาน้ำแข็งราดหัว แล้วประกาศบริจาคเงินให้โน่น-ให้นี่ ถามตรงๆ...มีกุศลจิตสงเคราะห์ หรือต้องการโชว์คลิปอีโก้ "น้ำแข็งราดหัว" ด้วยนึกว่าเท่ ว่าเก๋ทันสมัย ฝรั่งมันทำอะไร คนไทยเลียตูดได้ตามกลิ่นตดติดๆ?
ลักษณะนี้มันสะท้อนถึงซูเปอร์ซับคอนเชียสของมนุษย์ "ทาสวัตถุทุน" พวกนี้อย่างหนึ่งว่า....ภายใต้จิตเบื้องลึกหรือที่เรียกว่า "จิตแอบ" ซึ่งมันฝังอยู่ในการกระทำทุกอย่าง อะไรที่ "ไม่ได้สิ่งตอบแทน" มนุษย์พวกนี้จะไม่ทำ...
วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ทำไม "ฟินแลนด์" ถึงเป็นที่หนึ่งเรื่องการศึกษา
มาดูกันครับว่าทำไม "ฟินแลนด์" ประเทศที่มีประชากรเท่ากับป
1.เขาเริ่มให้เด็กเรียนอย่า
จะเริ่มเรียน Pre-School ก็ตอนนู้นอายุได้ 6 ขวบ เนื่องจากเขาต้องการให้เด็ก
2.ในระดับประถมเด็กจะเรียนไ
เพื่อให้เด็กได้มีเวลาไปทำใ
3.ห้องเรียนเขาจะกำหนดให้มี
เนื่องจากทุกคนต้องการการเอ
4.ไม่มีระบบเกรดเฉลี่ย
เพราะเกรดเฉลี่ยจะเป็นตัวสร
เขามองว่าการเรียนคือการพัฒ
5.จ้างผู้อำนวยการมาบริหารโ
โดยให้กรรมการโรงเรียนดูแล ผลงานไม่ดีก็เชิญออกได้
เพื่อป้องกันการใช้เส้นสายแ
6.อาชีพครูเป็นยาก แต่เงินเดือนดีพอๆกับหมอ
เขามองว่าอาชีพครูเป็นอาชีพ
ไม่ได้บอกว่าของเขาดี ของเราไม่ดี แล้วต้องเอาอย่างเขาทั้งหมด
แต่เขาก็เป็นตัวอย่างที่ดี หากเราจะนำบางเรื่องมาปรับห
วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ลด ละ เลิก sex joy youth success
สังคมบริโภคนิยมดำเนินไปบนฐ
ถ้าเราคิดขึ้นมาได้ว่าสักวั
พระไพศาล วิสาโล
วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)